สภาสงฆ์ "พุทธเถรวาทโลก" เกิดแล้ว"
"World Theravada Buddhist Sangha Council -
"World Theravada Buddhist Sangha Council
สภาสงฆ์ "พุทธเถรวาทโลก" เกิดแล้ว"
ผลงานของพระสงฆ์เถรวาทชาวเอเชีย
ครอบคลุมเถรวาททั่วโลก
เป้าหมาย เพื่อเอกภาพของพระพุทธศาสนา
ลังกา คือ ต้นแบบของธนาคารพุทธ และต้นแบบ
ของนักการเมืองชาวพุทธเพื่อรักษาพระพุทธศาสนา
บางทีไทยอาจต้องเป็นอย่างลังกา ?
+×÷=+×÷=
"เถรวาท" คือ ชื่อกลุ่มของพระสงฆ์ที่ถือตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระเถระ ๕๐๐ รูปมีพระมหากัสสปะเป็นผู้นำรวบรวมไว้หลังจากพระพุทธเจ้านิพพาน
คำนี้เกิดขึ้นใช้เรียกกลุ่มของพระอย่างที่รู้กันว่าเป็นนิกาย (ภาษาอังกฤษ เรียกว่า school หรือ sect)เมื่อ พ.ศ. ๑๐๐-๑๓๐ ที่แคว้นวีชชี
ซึ่งอยู่ในอินเดียเหนือ (ปัจจุบันคืออุตตรประเทศ) คู่กับคำว่า "มหาสังฆิกะ" (ผู้มีพวกมาก) ๑๐๐ ปี
นิกายทั้งสองก็แตกลูกแตกหลานออกมา แยกเป็นนิกายเถรวาทแตกออกมาอีก ๑๑ นิกายย่อย ส่วนมหาสังฆิกะแตกออกมา ๕ นิกายย่อย รวมแล้วเป็น ๑๘ นิกาย
และต่อมาตก พ.ศ. ๔๐๐ เศษ พระกลุ่มหนึ่งแยกตัวออกมาจาก ๑๘ นิกาย เพื่อตั้งกลุ่มใหม่
เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาที่กำลังจะหมดคนนับถือ เพราะคนอินเดียยุคนั่นเริ่มทิ้งพระพุทธศาสนากลับไปนับถือศาสนาพราหมณ์
ด้วยเหตุผลคือ ๑) เพราะพระสงฆ์ส่วนมากมุ่งเอาสุขเฉพาะตัว ไม่สนใจปฏิบัติและเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
๒) เพราะศาสนาพราหมณ์สร้างพระเจ้าเพิ่มจากพระพรหมอีก ๒ คือ พระวิษณุ กับ พระศิวะ รวม เป็น ๓ ที่เรียกว่า "ตรีมูรติ" มาช่วยผู้คน เลยดึงคนออกไปจากพระพุทธศาสนา
พระกลุ่มนี้เรียกแนวทางใหม่ที่ท่านคิดขึ้นว่า "มหายาน" (ยานลำใหญ่ ขนคนให้พ้นทุกข์ได้มาก) แล้วเรียก"เถรวาท" เดิมทุกข์นิกายว่า "หีนยาน" (ยานลำเล็กขนคนให้พ้นทุกข์ได้น้อย)
เถรวาท เข้ามาเผยแพร่อยู่ในประเทศเอเชียใต้คือลังกาและในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ พม่า ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ตั้งแต่ยังเป็นสุวรรณภูมิ (พ.ศ.๒๓๙ ในรัชกาลพระเจ้าอโศก) และอยู่เรื่อยมาถึงปัจจุบัน แต่ในช่วงเวลานับพันปี
ชาวพุทธในประเทศเหล่านี้ต้องรู้สึกหวานอมขมกลืนกับคำว่า "หีนยาน" ที่พระซึ่งเรียกตัวเองว่ามหายานเมื่อ พ.ศ. ๔๐๐ จัดให้
จนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ จึงพ้นจากคำนี้กลับมาใช้คำว่า "เถรวาท" โดยที่ประชุมองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกมีมติให้เลิกใช้ "หีนยาน" แต่ใช้ "เถรวาท" แทนมานับแต่นั้น
ปัจจุบันเถรวาท เข้มแข็งอยู่ใน ๓ ประเทศ คือ ลังกา พม่า ไทย ที่ว่าเข้มแข็ง คือ เข้มในด้านที่มีอิทธิพลต่อผู้คนและรัฐบาล
อย่างในลังกา ชาวลังกาเป็นหนี้บุญคุณพระมากเพราะพระร่วมมีบทบาทสำคัญในการกอบกู้เอกราช
ทั้งๆที่พระพุทธศาสนาเกือบราบคาบไปแล้วเพราะฝีมือบาทหลวง
แต่พระก็กอบกู้กลับมาได้ด้วยการลงทุนศึกษาอังกฤษแล้วท้าบาทหลวงโต้วาทะกันเรื่องคำสอนในศาสนาใครศาสนาท่าน
ในที่สุดบาทหลวงยอมถอย และศาสนาคริสต์เองก็คงมีคุณธรรมอยู่บ้างจึงละอายใจที่จะยึดครองแบบไม่ว่าจากการแย่งชิงหรือใล้แง่มุมทางกฏหมาย
ในพม่าเอง เมื่อถูกอังกฤษรุกราน พระพม่าก็อุทิศตัวรักษาพระพุทธศาสนาย่างเต็มที่และช่วยบ้านเมืองจนได้เอกราช จึงได้ใจประชาชน
คราวเกิดเผด็จการครองเมืองก็ร่วมสู้ด้วยด้วยการสอนธรรมะ แต่บางรูปอาจสอนแรงไปหน่อย เลยต้องระหกระเหินหนีไปอยู่อเมริกา อย่างท่าน "อชิน ญาณิสสระ"
...แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในที่สุด ถึงขนาดกลับมาตั้งมหาวิทยาลัย ตั้งโรงพยาบาล พัฒนาบ้านเกิดเป็นเมือง
รัฐบาลเผด็จการพม่าเองก็ฉลาด รู้ว่าท่านเก่งและตัวเองก็ทำอะไรท่านไม่ได้ก็เลยขอดีด้วยและตั้งท่านให้เป็นทูตวัฒนธรรมช่วยเป็นปากเสียงแทนรัฐบาลพม่าในต่างแดน...
ผิดกับรัฐบาลบางประเทศไล่ล่าลูกเดียว...
ส่วนในไทย ดูจะอ่อนแอลง พระไม่กล้าขัดขืนฝ่ายปกครอง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ? เลยทำให้คนนอกทั้งหลายได้ใจเบียดเบียนถึงขั้นจะหาทางยุบมหาเถรสมาคม
ซึ่งเป็นองค์การปกครองสูงสุดหรือเป็นรัฐบาลของคณะสงฆ์ไทย ถ้ายุบได้ละคงงามหน้ามหาเถร
สูญเสียความเป็นพี่เบิ้มด้านเถรวาทในเอเชียแน่ ท่านวางอุเบกขาดีจริงๆ
คิดแล้วใจหาย....พระเองท่านยังปกป้องตัวเองไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับกบเขียดอย่างพวกเราจะไปคุ้มครองท่านได้...
แต่มาวันนี้แล้วอุ่นใจ แม้สถาบันสงฆ์ในบ้านเราจะไม่เข้มแข็ง แต่ที่พม่าลังกาเข้มแข็ง
..อย่าว่าแต่แข็งกับรัฐบาลของตัวเอง แม้แต่กับศาสนาไหนก็แข็ง...
ในพม่า มีคนบางศาสนารังแกพระเณรหรือคนพุทธ ไม่ช้าเดี๋ยวได้ผลตอบแทนทันตาเห็น
ในลังกา คนบางศาสนาทำท่าไม่ดีข่มขู่พระพุทธศาสนา พระพาคนมาพังร้านค้าเลย
...ผมไม่ได้ว่าท่านทำดีหรือชั่ว แต่มองในแง่การป้องกันตัว...ซึ่งอีกฝ่ายก็คงเข้าใจว่า ทำไมพระต้องทำ
มาลังกาครั้งนี้ดีใจที่เห็นลังกามี "ธนาคารพระพุทธศาสนา"
ซึ่งเรียกว่า "สมบัติแบ็งค์" แต่เมืองไทยตั้งไม่ได้ ....คิดไม่ออกว่าเพราะอะไร ?
หรือบางที สภาสงฆ์พุทธเถรวาทโลกจะช่วยได้ เพราะพระพม่า พระลังกาอาจจะเข้าไปช่วยคิดและแก้ปัญหาให้ได้...ผมคิดแล้วอุ่นใจ.
"World Theravada Buddhist Sangha Council
สภาสงฆ์ "พุทธเถรวาทโลก" เกิดแล้ว"
ผลงานของพระสงฆ์เถรวาทชาวเอเชีย
ครอบคลุมเถรวาททั่วโลก
เป้าหมาย เพื่อเอกภาพของพระพุทธศาสนา
ลังกา คือ ต้นแบบของธนาคารพุทธ และต้นแบบ
ของนักการเมืองชาวพุทธเพื่อรักษาพระพุทธศาสนา
บางทีไทยอาจต้องเป็นอย่างลังกา ?
+×÷=+×÷=
"เถรวาท" คือ ชื่อกลุ่มของพระสงฆ์ที่ถือตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระเถระ ๕๐๐ รูปมีพระมหากัสสปะเป็นผู้นำรวบรวมไว้หลังจากพระพุทธเจ้านิพพาน
คำนี้เกิดขึ้นใช้เรียกกลุ่มของพระอย่างที่รู้กันว่าเป็นนิกาย (ภาษาอังกฤษ เรียกว่า school หรือ sect)เมื่อ พ.ศ. ๑๐๐-๑๓๐ ที่แคว้นวีชชี
ซึ่งอยู่ในอินเดียเหนือ (ปัจจุบันคืออุตตรประเทศ) คู่กับคำว่า "มหาสังฆิกะ" (ผู้มีพวกมาก) ๑๐๐ ปี
นิกายทั้งสองก็แตกลูกแตกหลานออกมา แยกเป็นนิกายเถรวาทแตกออกมาอีก ๑๑ นิกายย่อย ส่วนมหาสังฆิกะแตกออกมา ๕ นิกายย่อย รวมแล้วเป็น ๑๘ นิกาย
และต่อมาตก พ.ศ. ๔๐๐ เศษ พระกลุ่มหนึ่งแยกตัวออกมาจาก ๑๘ นิกาย เพื่อตั้งกลุ่มใหม่
เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนาที่กำลังจะหมดคนนับถือ เพราะคนอินเดียยุคนั่นเริ่มทิ้งพระพุทธศาสนากลับไปนับถือศาสนาพราหมณ์
ด้วยเหตุผลคือ ๑) เพราะพระสงฆ์ส่วนมากมุ่งเอาสุขเฉพาะตัว ไม่สนใจปฏิบัติและเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า
๒) เพราะศาสนาพราหมณ์สร้างพระเจ้าเพิ่มจากพระพรหมอีก ๒ คือ พระวิษณุ กับ พระศิวะ รวม เป็น ๓ ที่เรียกว่า "ตรีมูรติ" มาช่วยผู้คน เลยดึงคนออกไปจากพระพุทธศาสนา
พระกลุ่มนี้เรียกแนวทางใหม่ที่ท่านคิดขึ้นว่า "มหายาน" (ยานลำใหญ่ ขนคนให้พ้นทุกข์ได้มาก) แล้วเรียก"เถรวาท" เดิมทุกข์นิกายว่า "หีนยาน" (ยานลำเล็กขนคนให้พ้นทุกข์ได้น้อย)
เถรวาท เข้ามาเผยแพร่อยู่ในประเทศเอเชียใต้คือลังกาและในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ พม่า ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ตั้งแต่ยังเป็นสุวรรณภูมิ (พ.ศ.๒๓๙ ในรัชกาลพระเจ้าอโศก) และอยู่เรื่อยมาถึงปัจจุบัน แต่ในช่วงเวลานับพันปี
ชาวพุทธในประเทศเหล่านี้ต้องรู้สึกหวานอมขมกลืนกับคำว่า "หีนยาน" ที่พระซึ่งเรียกตัวเองว่ามหายานเมื่อ พ.ศ. ๔๐๐ จัดให้
จนเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ จึงพ้นจากคำนี้กลับมาใช้คำว่า "เถรวาท" โดยที่ประชุมองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกมีมติให้เลิกใช้ "หีนยาน" แต่ใช้ "เถรวาท" แทนมานับแต่นั้น
ปัจจุบันเถรวาท เข้มแข็งอยู่ใน ๓ ประเทศ คือ ลังกา พม่า ไทย ที่ว่าเข้มแข็ง คือ เข้มในด้านที่มีอิทธิพลต่อผู้คนและรัฐบาล
อย่างในลังกา ชาวลังกาเป็นหนี้บุญคุณพระมากเพราะพระร่วมมีบทบาทสำคัญในการกอบกู้เอกราช
ทั้งๆที่พระพุทธศาสนาเกือบราบคาบไปแล้วเพราะฝีมือบาทหลวง
แต่พระก็กอบกู้กลับมาได้ด้วยการลงทุนศึกษาอังกฤษแล้วท้าบาทหลวงโต้วาทะกันเรื่องคำสอนในศาสนาใครศาสนาท่าน
ในที่สุดบาทหลวงยอมถอย และศาสนาคริสต์เองก็คงมีคุณธรรมอยู่บ้างจึงละอายใจที่จะยึดครองแบบไม่ว่าจากการแย่งชิงหรือใล้แง่มุมทางกฏหมาย
ในพม่าเอง เมื่อถูกอังกฤษรุกราน พระพม่าก็อุทิศตัวรักษาพระพุทธศาสนาย่างเต็มที่และช่วยบ้านเมืองจนได้เอกราช จึงได้ใจประชาชน
คราวเกิดเผด็จการครองเมืองก็ร่วมสู้ด้วยด้วยการสอนธรรมะ แต่บางรูปอาจสอนแรงไปหน่อย เลยต้องระหกระเหินหนีไปอยู่อเมริกา อย่างท่าน "อชิน ญาณิสสระ"
...แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในที่สุด ถึงขนาดกลับมาตั้งมหาวิทยาลัย ตั้งโรงพยาบาล พัฒนาบ้านเกิดเป็นเมือง
รัฐบาลเผด็จการพม่าเองก็ฉลาด รู้ว่าท่านเก่งและตัวเองก็ทำอะไรท่านไม่ได้ก็เลยขอดีด้วยและตั้งท่านให้เป็นทูตวัฒนธรรมช่วยเป็นปากเสียงแทนรัฐบาลพม่าในต่างแดน...
ผิดกับรัฐบาลบางประเทศไล่ล่าลูกเดียว...
ส่วนในไทย ดูจะอ่อนแอลง พระไม่กล้าขัดขืนฝ่ายปกครอง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ? เลยทำให้คนนอกทั้งหลายได้ใจเบียดเบียนถึงขั้นจะหาทางยุบมหาเถรสมาคม
ซึ่งเป็นองค์การปกครองสูงสุดหรือเป็นรัฐบาลของคณะสงฆ์ไทย ถ้ายุบได้ละคงงามหน้ามหาเถร
สูญเสียความเป็นพี่เบิ้มด้านเถรวาทในเอเชียแน่ ท่านวางอุเบกขาดีจริงๆ
คิดแล้วใจหาย....พระเองท่านยังปกป้องตัวเองไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับกบเขียดอย่างพวกเราจะไปคุ้มครองท่านได้...
แต่มาวันนี้แล้วอุ่นใจ แม้สถาบันสงฆ์ในบ้านเราจะไม่เข้มแข็ง แต่ที่พม่าลังกาเข้มแข็ง
..อย่าว่าแต่แข็งกับรัฐบาลของตัวเอง แม้แต่กับศาสนาไหนก็แข็ง...
ในพม่า มีคนบางศาสนารังแกพระเณรหรือคนพุทธ ไม่ช้าเดี๋ยวได้ผลตอบแทนทันตาเห็น
ในลังกา คนบางศาสนาทำท่าไม่ดีข่มขู่พระพุทธศาสนา พระพาคนมาพังร้านค้าเลย
...ผมไม่ได้ว่าท่านทำดีหรือชั่ว แต่มองในแง่การป้องกันตัว...ซึ่งอีกฝ่ายก็คงเข้าใจว่า ทำไมพระต้องทำ
มาลังกาครั้งนี้ดีใจที่เห็นลังกามี "ธนาคารพระพุทธศาสนา"
ซึ่งเรียกว่า "สมบัติแบ็งค์" แต่เมืองไทยตั้งไม่ได้ ....คิดไม่ออกว่าเพราะอะไร ?
หรือบางที สภาสงฆ์พุทธเถรวาทโลกจะช่วยได้ เพราะพระพม่า พระลังกาอาจจะเข้าไปช่วยคิดและแก้ปัญหาให้ได้...ผมคิดแล้วอุ่นใจ.
สภาสงฆ์ "พุทธเถรวาทโลก" เกิดแล้ว"
Reviewed by Unknown
on
23:07
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: