อย่าหลงประเด็น! โจมตีคำว่าทำบุญมากเกินไป+++
“
คนพาลเท่านั้น ที่ไม่สรรเสริญการให้ทาน ”
(พุทธพจน์)
ปัจจุบันมีบางคนโจมตีคนที่ทำบุญว่าโง่
ทำบุญมากไป เดี๋ยวจะหมดตัว บ้างก็พยายามรณรงค์ให้คนทำบุญน้อยๆ ซึ่งการกระทำเหล่านี้เกิดขึ้นจากความตระหนี่ในใจเป็นมูลเหตุ
ผิดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
ปัญหาของสังคมไทยปัจจุบันไม่ใช่อยู่ที่คนทำบุญมากเกินไป
แต่อยู่ที่คนใช้จ่ายเงินไปกับอบายมุขมากเกินไป
ค่าใช้จ่ายเรื่องเหล้า
เบียร์ บุหรี่ ของคนไทย ตกปีละ 400,000 ล้านบาท ถ้ารวมยาเสพติดและการพนันด้วย
เกินกว่า 1 ล้านล้านบาท / ปี มากกว่าเงินทำบุญประมาณ 10 เท่า
ซึ่งอบายมุขนอกจากจะทำให้เสียทรัพย์แล้ว
ยังเสียสุขภาพ เสียการงาน เกิดปัญหาครอบครัว เป็นบ่อเกิดของอาชญากรรม
ปัญหาสังคมนานัปการ
ถ้าเราสามารถชวนคนเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้มากๆ
คนที่เข้าวัด จะลด ละ เลิกอบายมุข และนำส่วนหนึ่งของเงินที่เคยใช้ไปกับอบายมุขมาทำบุญทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
และบริจาคช่วยเหลือสังคมในเรื่องต่างๆ แทน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวผู้ทำบุญ
ครอบครัว สังคม และเป็นบุญกุศลติดตัวไปในภพเบื้องหน้าด้วย
ไม่ต้องกลัวว่าคนจะทำบุญสร้างวัดมากไป
เพราะวัดใหญ่ๆยังใช้งบก่อสร้างน้อยกว่าโรงงานเหล้า เบียร์ ยาสูบเสียอีก
ยิ่งสร้างแล้วมีคนเข้าวัดปฏิบัติธรรมมากๆ ยิ่งคุ้มค่ามาก
ถ้าเห็นวัดไหนมีเสนาสนะ
แต่คนเข้าวัดน้อย ไม่ใช่เป็นเหตุอ้างให้ชวนคนเลิกสร้างวัด
แต่ควรช่วยกันรณรงค์ชวนคนเข้าวัดให้มากๆ ให้เต็มโบสถ์ เต็มวิหาร เต็มศาลา
ใช้พื้นที่ให้คุ้มประโยชน์
ผู้ที่คิดจะติเตียนคนทำบุญนั้น
เอาเวลาและสติปัญญาไปกระตุ้นเตือนให้คนเลิกอบายมุขดีกว่า
ดังตัวอย่างในครั้งพุทธกาล
พระเจ้าปเสนทิโกศล
พระราชาแคว้นโกศล ได้ถวายอสทิสทาน ด้วยการถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ 500 รูป
โดยนิมนต์ท่านนั่งบนมณฑป
มีช้าง
500 เชือก ถือเศวตฉัตรกั้นร่มให้ ช้าง 1 เชือกต่อพระภิกษุ 1 รูป
มีเจ้าหญิง
250 พระองค์ ถือพัดๆให้พระภิกษุ
มีเจ้าหญิง
250 พระองค์ คอยบดของหอมบูชาพระภิกษุ
เศวตฉัตร
บัลลังก์สาหรับนั่ง เชิงบาตร และตั่งเช็ดเท้าที่พระราชาทำถวายพระศาสดา
เป็นของสูงค่าประมาณไม่ได้
ในทานนี้
พระราชาสละทรัพย์ไป 140 ล้าน ในวันเดียว
บางคนอาจนึกสงสัยว่าทำไมต้องให้ทานมากขนาดนี้
ถ้าเป็นผู้ที่รู้ค่าของบุญแล้ว จะไม่มีคำว่าทำบุญมากเกินไปเลย
พระพุทธเจ้าเมื่อสร้างบารมีอยู่
บางพระชาติถึงขนาดสละเลือดเนื้อของตนไปให้แม่เสือกิน
เพื่อป้องกันไม่ให้แม่เสือที่หิวโซกินลูกตัวเอง
อามาตย์ของพระราชาคนหนึ่ง
ชื่อ กาฬะ คิดติเตียนพระราชาว่า
“
นี้เป็นไปเพื่อความเสื่อมแห่งราชตระกูล ทรัพย์ถึง 140 ล้าน หมดในวันเดียว
ภิกษุทั้งหลายบริโภคอาหารแล้วก็นอนหลับ
มิได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์
ราชตระกูลฉิบหายเสียแล้ว
”
อามาตย์อีกคน
ชื่อว่า ชุณหะ คิดสรรเสริญพระราชาว่า
“
ทานของพระราชายิ่งใหญ่ น่าเลื่อมใสจริง คนอื่นทำไม่ได้ เราขออนุโมทนาบุญนั้น ”
พระราชาทรงกริ้วกาฬอามาตย์ตรัสว่า
“
เราให้ทานมากจริง แต่เราให้ของของเรา มิได้เบียดเบียนอะไรท่านเลยไฉนท่านจึงเดือดร้อนปานนั้น”
ดังนี้แล้วทรงเนรเทศกาฬอามาตย์ออกจากแคว้น
และมอบราชสมบัติให้ชุณหอามาตย์ครอง 7 วัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า
“
คนตระหนี่ไปเทวโลกไม่ได้
คนพาลเท่านั้น
ที่ไม่สรรเสริญการให้ทาน
ส่วนนักปราชญ์อนุโมทนาการให้ทาน
จึงเป็นผู้มีความสุขในโลกหน้า
เพราะการอนุโมทนานั้น
”
เราอย่าประพฤติตนเยี่ยงกาฬอามาตย์
ติเตียนคนที่เขาตั้งใจทำบุญให้ทานเลย เพราะการกระทำอย่างนั้นจะนำมาซึ่งบาปอกุศล
ตายแล้วไปสู่อบายภูมิ
แต่ให้ปฏิบัติตามโอวาทของพระพุทธเจ้า
อนุโมทนาชื่นชมผู้ที่ให้ทานกันเถิด เพราะนั่นเป็นทางมาแห่งบุญกุศล นำความสุขความเจริญมาสู่ตัวเองทั้งโลกนี้และโลกหน้า
อย่าหลงประเด็น! โจมตีคำว่าทำบุญมากเกินไป+++
Reviewed by Unknown
on
21:25
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: